วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ทำกฐิน วัดพญากำพุช จันทบุรี

ปีนี้เป็นปีที่ตกลงใจว่าจะทำกฐินอีกซักรอบ จากที่เคยทำมาสองสามปีที่แล้วที่อุดร พอคิดได้ก็เริ่มหาวัดเพราะกฐินต้องจองกันล่วงหน้ายาว วัดรับกฐินได้แห่งละครั้งเดียว มาลงตัวที่วัดพญากำพุช เป็นวัดติดขอบชายแดนจันทบุรี เกือบถึงเขมร

เรามีความรู้สึกต่อการทำกฐินคือเป็นประเพณีในการถวายผ้าพระกฐิน และยังการทำทานชนิดนึง ที่ต้องใช้กำลังแรงใจและแรงทรัพย์ ที่สำคัญคือเป็นการรักษาพระพุทธศาสนาให้ยาวนาน ผู้คนจะได้ประโยชน์จากการที่วัดนำทรัพย์ไปสร้างสิ่งต่างๆที่จะมาเผยแพร่ธรรม เป็นศูนย์รวมผู้คนให้มาร่วมกันทำสิ่งที่ดี

หลังจากตกลงว่าจะทำกฐิน เราก็คิดว่าจะถวายสังฆทานและถวายเพลด้วย มหกรรมต่างๆจึงเกิดขึ้นตามมาตั้งแต่ซื้อของจัดสังฆทาน เพราะเราไม่นิยมซื้อสังฆทานจัดมาให้เสร็จ เราต้องการเลือกซื้อเองทุกอย่างที่มีประโยชน์กับวัดจริงๆ เช่น แปรงขัดห้องน้ำ รองเท้า ไฟฉาย thumb drive ยา สารพัดครบทุกสิ่ง จึงได้มาเป็นกล่องสังฆทานกล่องยักษ์ 9 กล่องดังรูปนี้ 555


ต่อไปคือผ้าไตร เราไม่นิยมไปซื้อที่ซุปเปอร์เพราะผ้าไม่ดี บางและสั้นเดินกว่าที่พระจะสวมใส่ได้จริง ผ้าที่ควรซื้อให้คือผ้ามัชลิน ขนาดสองเมตร อย่าน้อยไปกว่านั้นเพราะจะสั้นเกินไป อันนี้เป็นความรู้ที่ได้มาจากการพูดคุยกับพระท่านที่มาประกอบพิธีต่างๆให้ตามโอกาส ทุกครั้งที่มีโอกาสถวายผ้าไตรจะถวายเป็นชุดใหญ่แบบนี้ ส่วนใหญ่มีขายตามร้านที่เสาชิงช้า จะเอาเบอร์โทรให้เค้าส่งมาให้ก็ได้ เราซื้อที่ร้านบัวขาวตรงสุขุมวิท 39


จัดแจงทุกอย่างครบ ก็จัดการจองรถเพราะเอาพนักงานบริษัทไปรวมแล้ว 10 ชีวิตและสัมภาระ เลยต้องเอารถตู้ไป 2 คัน ถึงวันเดินทางก็พอดีพร้องทุกสิ่ง ทริปนี้ไม่เน้นเที่ยวมาก เน้นกิจกรรมซะส่วนใหญ่ เราเริ่มเดินทางไป มีให้เลือกว่าจะไป motorway หรือ ชลบุรีเก่า ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง

เราออก 9 โมงเช้าถึง เที่ยงพอดีเวลาอาหารเลยแวะร้านอาหารชื่อ เรือนริมน้ำกัน อาหารอร่อยเกือบทุกจาน มาเที่ยวนี้สั่งได้เยอะเพราะคนมาเยอะ มาดูวิวร้านอาหารกัน ตรงนี้อยุู่แถวปากน้ำ


อาหารอร่อยทุกจาน  ส้มตำก็อร่อย


มีกุ้งเจ้าชู้ เมนูแนะนำ อร่อยค่ะ


ปลาหมึกไข่เค็ม





กะหล่ำผัดน้ำปลาก็อร่อย



อิ่ม อร่อยมากค่ะ มื้อนี้ เสร็จแล้วเดินทางต่อไปเลยนะคะ โดยส่วนใหญ่คนมาจันทบุรี จะไปแวะดูคุกขี้ไก่ ตึกแดง จันทบูรณ์ แต่เราเคยไปแล้ว และลูกหาบก็ไม่อยากไป อยากเข้าโรงแรม เราเลยยิงตรงไปโรงแรมเลย โรงแรมเราชื่อ เจ้าหลาวทอแสงบีซ อยู่ตรงหาดเจ้าหลาว โรงแรมที่เราจองอยู่ติดหาดเลย หาดที่นี้เงียบสงบดี ไม่พลุกพล่านมากนัก น้ำทะเลก็สวย เหมาะกับมาพักผ่อนจริงๆ




ริมหาดจะมีคนขายของวิ่งมาขายเป็นระยะๆ เดี๋ยวไอติมมา เดี๋ยวปลาหมึกปิ้งมา ไม่อดอยากค่ะ 555


มาดูห้องกันค่ะ ห้องเราติดริมหาด ไม่มีอะไรมาบังวิวเลย ห้องสวย สะอาด แอร์เย็นดีค่ะ


ห้องน้ำสะอาด เนี๊ยบค่ะ




วิวจากในห้องค่ะ คุ้มสุดๆ มีระเบียงให้มานั่งดูทะเลด้วย


เรามาถึงที่นี้ช่วงบ่าย มีเวลาพักเหนื่อย รอแดดร่มๆค่อยมาหาอะไรเล่นกัน น้องๆในทีมอยากเล่นน้ำทะเล กับวอลเลย์บอลกันค่ะ


เรากันสนุกสนานเชียว


จนค่ำก็ต่างคนต่างไปเตรียมตัวอาบน้ำทานข้าวค่ะ ดูพระอาทิตย์ตกดินกัน


อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็พร้อมเดินทางไปทานข้าวเย็นกันค่ะ เราไปที่ร้านดังชื่อ ยายตุ๊ การเดินทางเที่ยวนี้วางแผนอย่างดีแต่ดันมาพลาดตรงไม่ได้จองร้านอาหารกันมาก่อน 555 โต๊ะเต็มซิค่ะ ก็ต้องยืนรอกันตามระเบียบ พลาดได้ไงเนี่ย เฮ้อออออออ นั่งอ่านเมนูฆ่าเวลาไป


รอพักนึงได้โต๊ะแล้วก็บรรเลงการสั่งกันใหญ่ จบลงได้อาหารมาเต็มโต๊ะเลยค่ะ หลังๆเรางดทานสัตว์มีชีวิตที่ต้องไปฆ่ามาให้เราทานแล้ว เช่นปูเป็นๆเอามานึ่งให้ทาน หรือกุ้งแม่น้ำ เลยแอบเห็นลูกน้องทำหน้าเซ็งๆกัน แต่ก็อะน่ะ มาทำบุญแต่ดันจะฆ่าสัตว์ก่อนไปทำบุญก็ไม่ไหวมะ 555 เผลอๆเห็นลูกน้องแอบสั่งปูผัดผงกระหรี่ รีบถามเลยว่าปูเป็นๆละเปล่า ร้านว่าใช่ เราเลยขอตัดเมนูออก สั่งกรรเชียงปูผัดมาให้แทน 555 นางคงแอบเคือง


อาหารก็อร่อยใช้ได้นะคะ





อิ่มอร่อยพุงกางเสร็จก็กลับโรงแรมเตรียมตัวตื่นเช้ามากวันพรุ่งนี้เพื่อออกเดินทางไปวัดพญากำพุช ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไปชั่วโมงครึ่ง แต่ยังอยู่ในจันทบุรีนะ แค่เกือบถึงชายแดนเขมรแล้วเท่านั้นเอง 5555

เช้ารุ่งขึ่น ที่นี้มีให้ลูกค้าตักบาตรพระกันแต่เช้าด้วยค่ะ


เราออกเดินทางกันแต่เช้าเพราะเรามีภารกิจต้องไปรับอาหารสำหรับถวายเพลก่อน รวมถึงซื้อดอกไม้ ผลไม้ ขนม สำหรับถวายเพล แล้วออกเดินทางให้ทัน 10 โมงครึ่ง เพื่อเตรียมจัดอาหารข้าวของให้ทันถวายเพล 11 โมง แล้วต่อด้วยถวายผ้าพระกฐินช่วงบ่าย

มาดูบรรยากาศงานวัดกันค่ะ


กองเครื่องสังฆทาน ผ้าไตร และของต่างๆที่นำมาถวาย


เตรียมถวายเพล


ต้นกฐิน เยอะมาก ละลานตา



มาดูบรรยากาศภายนอกกัน มีโรงทานมาเยอะมาก



เริ่มต้นก็ต้องถวายข้าวพระพุทธก่อนนะค่ะ


แล้วก็จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย



หลังจากถวายเพลเสร็จ ก็ถึงเวลารับประทานของเราๆ 555 อาหารที่วัดนี่หลากหลายนะคะ สำหรับเราถือว่าเผ็ดมาก แต่ก็ทานค่ะ 555


จบท้ายด้วยการกรวดน้ำ แล้วนับเงินทำบุญกัน สรุปปีนี้มียอดกฐินทั้งหมด 8 ล้านกว่าบาม อนุโมทนากับผู้ร่วมทำบุญทุกท่านมาณ. ที่นี้ ถ้ามีโอกาสทำบุญกฐินอีก มาร่วมทำบุญกันอีกนะ



เป็นอันจบพิธีเตรียมแยกย้ายกลับบ้านกัน หลังจากนี้คงไม่ได้เจอกันอีกนาน ไว้คราวหน้าเจอกันใหม่

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

2 days trip at Nakorn Sri Thammarat and Kiriwong

ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปนครศรีธรรมราชเพื่อไปพักผ่อนบนที่ๆเคลมว่าอากาศดีที่สุดในประเทศไทยคือ คีรีวง ทริปนี้มาด้วยจิตใจไม่แช่มชื่น อยากยกเลิกทริป เนื่องด้วยการสวรรคตของในหลวง ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ เรายังไม่ความเศร้าอยู่ในใจบ้าง แต่เราและเพื่อนจ่ายค่าตั๋วและมัดจำโรงแรมไปแล้ว เลยตัดสินใจไป Life goes on

ด้วยชีวิตที่วุ่นวายช่วงนี้และเราไม่เคยไปนครศรีธรรมราชเลย เราไม่ทราบว่าจังหวัดอยู่ทางใต้และติดกับสุราษฎร์ ที่สำคัญคือมีทะเลสวยด้วย ทำไมช่างด้อยปัญญาแบบนี้ นึกว่าตัวเอง เลยวางแผนมาค้างที่คีรีวงคืนเดียว ถ้ารู้ก่อนเราย้ายไปนอนชาดหาดทะเลอีกคืนเพื่อนั่งเรือล่องทะเล มานึกได้เมื่อสายไป 555

เที่ยวนี้เราเดินทางโดย Air Asia น่าจะเป็นครั่งแรกที่เราเดินทางกับสายการบินนี้ ค่าตั๋วถูกมากไปกลับ สองพันกว่า แต่เพิ่งรู้ว่าต้องมีการจองน้ำหนักกระเป๋ากันด้วย เออ! แปลก เราไปลงสนามบินนครศรีธรรมราชเพื่อไปเอารถเช่าแล้วเดินทางต่อ ที่แรกที่เราจะไปทะเลหาดสิชล ชายหาดก็เงียบมากๆๆ สงบสุด ใครอยากมาเงียบๆก็มาได้ค่ะ



มารู้ว่าควรค้างซักคืนเพื่อนั่งเรือออกไปเล่นน้ำที่อ่าวต่างๆ พลาดมาก 555 เลยขับรถดูหาดไป หาดนี้เหมาะที่จะมาค้างคืนเล่นน้ำมากกว่า เราเดินทางต่อไปยังหาดทรายแก้วซึ่งมีร้านอาหารริมหาดมากหน่อย เพราะถึงเวลาทานอาหารเที่ยงพอดี


หาดนี้คลื่นลมแรง ทำให้ทางจังหวัดสร้างแนวหินมากันคลื่นลม ทำให้ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำซักเท่าไร มานั่งทานข้าวสวยๆ เหมาะกว่า เรามาดูอาหารกัน รสชาติไม่เลว แต่ออกจะพื้นบ้านมากๆนะคะ

ยอดยอดมะพร้าว เมนูแนะนำ อร่อยจริงๆค่ะ


ปลาหมึกผัดใข่เค็ม เมนูนี้ไม่ค่อยประทับใจ เพราะไม่ค่อยคุ้นชินกับการเอาปลาหมึดมาหั่นทำเลย ไม่ลอกหนังไม่ควักไส้ คือทำแบบชาวบ้านมากแต่เราไม่คุ้นชินเท่าไรค่ะ


ต่อไป เมนูปลอดภัย ปลาทอดน้ำปลา ไม่มีความเสี่ยงในการสั่ง ทกร้านควรทำได้ 555


สุดท้ายคือ ข้าวผัดปู ทำมาดีเชียว หอม อร่อย ค่ะ


อาหารถือว่าผ่านค่ะ จบจากนี้ เราวางแผนว่าจะไปไหว้พระมหาธาตุ มาถึงจังหวัดนี้ต้องมาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมืองนะคะ พระมหาธาตุนี่จะตั้งอยู่กลางเมืองเลยค่ะ เป็นเจดีย์ประดิษฐานพระธาตุแต่ตอนี่เราไปปิดซ่อมแซมอยู่ค่ะ




ด้านล่างเจดีย์


เดินออกจากกด้านล่างเจดีย์มา จะเจอวิหารทรงม้า มีทางเดินขึ้นไปด้านบน น่าจะเป็นทางขึ้นไปบนเจดีย์ แผ่าป้ายอธิบายว่ามีเทพเทวดาท่านไหนพิทักษ์ดูแลอยู่บ้าง



สักการะเสร็จก็เดินออกมาจะเดินทางไปคีรีวง เพื่อเข้าพักรีสอรต์ เจอเจ้านี้ที่ทุกคนต้องลอง มังคุดคัด ของทานเฉพาะจังหวัดนี้ มาแล้วต้องลองนะคะ




จากตัวเมือง เราเดินทางมายังคีรีวง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เส้นทางขับขึ้นเขามาเรื่อยๆ ไม่ยากอะไร ทางเล็กลงไปเรื่อยๆคดเคี้ยว แต่พอมาถึงจะค่อนข้างประทับใจในธรรมชาติ สวยงามจริงๆค่ะ


น้ำไหลแรง แต่น้ำใสมาก เป็นลำน้ำแบบนี้ไปตลอดทางเลยค่ะ





เราขับมาเช็คอินที่ คีรีวง รีเวอร์วิว โรงแรมบริการดีมาก ประทับใจ มีกล้วยไข่ให้หยิบทานฟรีเลยด้วยค่ะ น้ำใจจากคนท้องที่ ประทับใจ 


มาดูห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนใหญ่โต เรียบง่ายแต่เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม แอร์เย็นสบาย ทีวีมีเคเบิ้ลท้องถิ่น ประทับใจค่ะ


มีระเบียงใหญ่ พร้อมด้วยเครื่องดื่มเตรียมให้


วิวข้างนอกก็สวย อากาศสบาย  ยิ่งตอนเช้าๆมานั่งเล่น ยิ่งสบาย




วันแรกที่มาถึงฝนตกทั้งวันเลย ตกๆหยุดๆ อากาศเลยสบายๆไม่ร้อนเท่าไร เราวางแผนมาถึงที่พักเร็วหน่อยให้ยังมีแสง จะได้ดูวิวได้นานหน่อย แล้วอยากทานอาหารที่ที่พักเลยเพราะอาหารที่นี้อร่อย และไม่ผิดหวังเลยจริงๆ มาดูอาหารกันค่ะ

เมนูแรก ต้มส้มปลากระบอก ต้องมาทานกันค่ะ


ต่อไปก็เมนูเด็ด อร่อยจริง ผักเหลียงผัดไข่ หอมมากๆ


น้ำพริกไข่ปู เผ็ดไปนิด แต่อร่อย เข้าปากไปเรื่อยๆก็เผ็ดจนปากเจ้อได้ 555


อันนี้สั่งมาแก้เผ็ด ไก่ทอดเกลือ


ทานเสร็จก็ค่ำพอดี อาหารอร่อยถูกใจ ตอนทานเสร็จ น้องที่ร้านอาหารเอากล้วยไข่มาให้คนละครึ่งหวีไม่คิดเงินแถมเดินมาส่งให้ที่ห้องเลยด้วย ประทับใจมาก เราสางแผนไว้ว่ารุ่งขึ้นจะออกสายๆหน่อยเพราะอยากซึบซับบรรยากาศดีๆไว้นานๆ ตอนออกจากรีสอร์ต ขับผ่านวิวสวยๆเลยอยู่ดูนิดนึงก่อนลาจาก น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาจริงๆ


ขากลับเราตั้งใจแวะร้านกาแฟร้านนี้เลย เพราะขามาขับเข้ามาแล้ว ดันปิด แต่สัญชาตญาณบอกว่า อร่อยแน่ และก็อร่อยจริงๆด้วย ถือว่า อร่อยมากซะด้วย เสียดายทานได้แก้วเดียวก็ต้องลาจาก แต่ตลอดทางกลับ ทานกาแฟร้านอื่นๆก็เลยไม่อร่อยไปเลยทั้งทาง 555



ร้านสวยๆ ง่ายๆ สบายๆ กาแฟอร่อยมากเหนือความคาดหมาย ใครผ่านมา อย่าพลาดนะ ต้องแวะเลย ร้านกาแฟลุงโรม


ออกจากคีรีวงได้ก็พอดีเที่ยง ถึงเวลาอาหารพอดี ขอลองขนมจีนใต้อยู่แล้ว ตอนแรกจะไปลองอีกร้านนึงแต่พอดูทรงแล้ว ร้านนี้น่าจะเด็ดกว่า มีปูยักษ์อยู่หน้าร้านเลย แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ชื่อร้านขนมจีนแม่ยาย เส้นสดน้ำแกงปูม้า


ขนมจีนที่นี้เป็นเส้นสด มีน้ำยาให้เลือกมาเป็นชุดหลายชนิดพร้อมผักเคียง แต่ถ้าต้องการน้ำยาปูต้องสั่งเพิ่ม เนื้อปูมาแน่นมาก รสชาติอร่อยติดใจจนสั่งแพ๊กกล่องลงใต้เครื่องเอากลับบ้านเลยค่ะ


น้ำยาชนิดต่างๆ มีแบบหวาน แบบไตปลา แบบเค็ม แล้วก็กะทิ เราสั่งแบบน้ำยาปูมาเพิ่ม


ผักเคียงก็เยอะมากๆ เลือกไม่ถูกเลย


เราสั่งไข่ต้มมาเสริมคนละฟอง


ร้านนี้อร่อยถุกใจ ถ้ามาอีกจะมาซ้ำแน่นอน สั่งกลับมีบริการแพ๊คใส่กล่องโหลดลงเครื่องให้ด้วยนะคะ จบจากนี้เราก็วิ่งไปเล่นๆรอเวลาไปสนามบิน ต้องเผื่อเวลาคืนรถด้วย ขับไปขับมาเจอร้านโรตีร้านดัง ใครมาต้องแวะทานนะคะ โรตีป้าหนอม มีสาขาเยอะเชียวค่ะ


เสร็จเราเผื่อเวลาไปสนามบิน คืนรถเช็คอินเสร็จ ไปนั่งรอในร้ายดังของจังหวัดอีกร้านชื่อ โกปี๊ ร้านนี้ขายกาแฟใต้ ซาลาเปา ติ่มซำ ที่เด็ดคือมีขายบะกู๊ดเต๋แบบกล่อง เอาไปทำเองที่บ้านได้ วิธีทำคือใส่น้ำร้อนต้มกับเครื่องได้เลย มีเป็นซองๆมา แต่ของเราของเป็นมืออาชีพกว่านั้น คือเอากระดูกซี่โครงมาต้มกับน้ำให้งวดไปครึ่งนึ้งแล้วค่อยทำตามที่กล่องบอกแต่ใส่ถุงเครื่องเทศครึ่งเวลาพอ เพราะนานไปจะฉุนเกิน เราไม่ค่อยชอบกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ เสร็จใส่เห็ด จบมาอร่อยเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสมา ลองซื้อไปทำกันดูนะคะ ทำเสร็จหน้าตาเป็นแบบนี้


เป็นอันจบการเดินทางของทริปนี้ เจอกันอีกทีคราวหน้าค่ะ